วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เรีิ่มเรียน เขียน อ่าน

     อย่างที่ว่าในตอนที่แล้ว ว่า โรงเรียนใช้อาคารศาลาวัด เป็นอาคารเรียน ดังนั้น ศาลาวัดทั้งหลังจึงต้องใช้เป็นที่เรียนทุกชั้น จำได้ว่า เข้าไปครั้งแรก มีครูเพียง 3 ท่าน คือ คุณครูฉายจันทร์  นาชัย คุณครู ดวน  บุตรแสน และคุณครูณรงค์  ทาอามาตย์ ซึ่งคนหลังเป็นครูใหญ่ และเป็นพ่อของเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง ดังนั้น ครูใหญ่จึงเป็นครูประจำชั้น ป.1  ซึ่งเป็นการสอนแบบเหมาสอนทั้งหมด ทุกวิชา ที่สมัยนั้น ที่จำได้ก็มีวิชาเลข วิชาคัดไทย วิชาอ่าน ส่วนชั้นโตขึ้นมาก็จะเพิ่มภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม ทั้งนี้ก็แล้วแต่ครูว่าจะสอนอะไรก่อนหลังในแต่ละวัน แต่สูตรสำเร็จ เลข-คัด-อ่าน ส่วนช่วงบ่ายก็จะมี พักย่อย หรือก็คือช่วงที่ลงไปเล่นเกม ไปร้องเพลง สนุกสนาน นั่นเอง
      สำหรับเกมที่คุณครูนำมาเล่น จำได้อย่างหนึ่งที่ คุณพ่อ ณรงค์ (แต่สมัยนั้นเรียกว่า "คุณครู" หรือ "ครูใหญ่" เท่านั้น เล่นมากที่สุดคือ เกมชื่อ บนบก-บนน้ำ คือ การยืนเป็นวงกลม แล้ว ครูจะสั่งว่า "บนบก" คำสั่งนี้ ให้ยืนนิ่งๆ ใครกระดุกกระดิก หรือกระโดด ก็จะแพ้ ต้องออกจากกการแข่งขัน ส่วน คำสั่งว่า "บนน้ำ" ทุกคนต้องกระโดด ทำนองว่า หนีน้ำ ใครไม่กระโดด ก็แพ้ ต้องออกจากการแข่งขัน อีกนั่นเอง เป็นการเล่นเพื่อทดสอบสมาธิของผู้เล่น
      เนื่องจากว่า ศาลาวัดที่มีหลังเดียว แต่ต้องมีนักเรียน 4 ชั้น คือ ป.1-4  ที่เป็นการศึกษาภาคบังคับสมัยนั้น ป.1  จะอยู่มุมตะวันออกเฉียงใต้  ป.2 อยู่ตะวันออกเฉียงเหนือ หน้าชุดโต๊ะหมู่บูชา ป.3 อยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือ แต่ด้านนั้นไม่ใช่มุมพระสงฆ์ใช้ จึงอยู่ชั้นที่สูงขึ้นเเล็กน้อยได้ ส่วน ป.4 อยู่มุมตะวัันตกเฉียงใต้ นั่นเอง ดังนั้น ทุกเย็นก่อนเลิกเรียนหากมีการท่องสูตรคูณ ทุกคน ทุกชั้นจะท่องพร้อมกัน จงไม่แปลก ที่เด็ก ป.1 ก็ท่องได้เหมือน ป.4 สบายไป
     หนักกว่านั้น เมื่อป.4 ท่องอาขยาย เราก็จะแอบได้ยิน และเรืิ่มท่องได้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นชั้น ป.4  เลยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น